เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 7. ทิพพจักขุกถา (27)
[374] สก. มังสจักษุที่ธรรม1 อุปถัมภ์แล้วเป็นทิพยจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ทิพยจักษุที่ธรรมอุปถัมภ์แล้วเป็นมังสจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. มังสจักษุที่ธรรม2 อุปถัมภ์แล้วเป็นทิพยจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ทิพยจักษุที่ธรรมอุปถัมภ์แล้วเป็นปัญญาจักษุ(ตาปัญญา)ได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. มังสจักษุที่ธรรมอุปถัมภ์แล้วเป็นทิพยจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ทิพยจักษุที่ธรรมอุปถัมภ์แล้วเป็นปัญญาจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. มังสจักษุที่ธรรมอุปถัมภ์แล้วเป็นทิพยจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. จักษุมี 2 อย่างเท่านั้นใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. จักษุมี 2 อย่างเท่านั้นใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. จักษุ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “มี 3 อย่าง คือ มังสจักษุ ทิพยจักษุ
และปัญญาจักษุ” มิใช่หรือ
ปร. ใช่

เชิงอรรถ :
1 ธรรม ในที่นี้หมายถึงกามาวจรธรรม (อภิ.ปญฺจ.อ. 374/197)
2 ธรรม ในที่นี้หมายถึงโลกุตตรธรรม (อภิ.ปญฺจ.อ. 374/197)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :375 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 7. ทิพพจักขุกถา (27)
สก. หากจักษุ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “มี 3 อย่าง คือ (1) มังสจักษุ
(2) ทิพยจักษุ (3) ปัญญาจักษุ” ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “จักษุมี 2 อย่างเท่านั้น”
สก. จักษุมี 2 อย่างเท่านั้นใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย จักษุนี้มี 3 อย่าง
3 อย่างอะไรบ้าง คือ (1) มังสจักษุ (2) ทิพยจักษุ (3) ปัญญาจักษุ
จักษุมี 3 อย่างนี้แล
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้อุดมบุรุษ
ได้ตรัสจักษุ 3 อย่าง คือ มังสจักษุ ทิพยจักษุ
และปัญญาจักษุอันยอดเยี่ยม
ความเกิดขึ้นแห่งมังสจักษุเป็นทางแห่งทิพยจักษุ
เมื่อใด ญาณคือปัญญาจักษุอันยอดเยี่ยมเกิดขึ้น
เมื่อนั้น ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
เพราะได้ปัญญาจักษุ”1
มีอยู่จริงมิใช่หรือ
ปร. ใช่
สก. ดังนั้น ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “จักษุมี 2 อย่างเท่านั้น”

ทิพพจักขุกถา จบ

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ ขุ.อิติ. (แปล) 25/61/416-417

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :376 }